• เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีสติ๊กเกอร์ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 กำกับ เพราะจะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่า แต่ถ้าเป็นตู้เย็นที่มีตัวเลขต่ำกว่า 5 ลงไปจะยิ่งกินไฟเยอะ ยกตัวอย่าง เบอร์ 1 คือระดับต่ำสุด เบอร์ 2 คือระดับพอใช้ เบอร์ 3 คือระดับปานกลาง เบอร์ 4 คือระดับดี และเบอร์ 5 คือระดับดีมาก นอกจากนี้ตู้เย็นประหยัดไฟเบอร์ 5 ยังมีการเพิ่มดาวขึ้นมา อาทิ ตู้เย็นประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ 1 ดาว แบบ 2 ดาว แบบ 3 ดาว โดยยิ่งดาวเยอะก็ยิ่งประหยัดไฟ
• เลือกขนาดตู้เย็นให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน อย่างที่รู้ว่าตู้เย็นมีการระบายความร้อนอยู่ตลอดเวลา พื้นที่จัดวางต้องเว้นที่ว่างเอาไว้สำหรับการระบายความร้อนที่เหมาะสม โดยควรเลือกตู้เย็นที่มีขนาดคิวเหมาะสมไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป โดยดูจากขนาดพื้นที่ภายในบ้านและจำนวนสมาชิกในครอบครัว เพื่อให้ได้ตู้เย็นประหยัดไฟที่ตอบโจทย์การใช้งาน
• เลือกตู้เย็นที่มีนวัตกรรมประหยัดไฟ ตู้เย็นรุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมนวัตกรรมในการถนอมอาหารให้สดใหม่และประหยัดพลังงาน คุณสามารถตรวจเช็กได้จากระบบต่าง ๆ อาทิ ระบบ Linear Cooling ช่วยคงความสดและรสชาติของอาหารได้ยาวนานยิ่งขึ้น ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และการทำความเย็นได้สม่ำเสมอ ระบบ Smart Inverter Compressor™ ยกระดับประสิทธิภาพด้านพลังงาน ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น หรือ ระบบ Inverter Linear Compressor™ ทำงานราบรื่น ลดเสียงรบกวน
• ความเหมาะสมของการใช้งาน การเลือกซื้อตู้เย็นควรเลือกจากขนาดที่เหมาะสมที่สุด จะช่วยให้คุณได้ตู้เย็นประหยัดไฟ ยกตัวอย่าง ตู้เย็นขนาดเล็กจุของได้น้อยหรือ ตู้เย็น 1 ประตู เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก จุของได้ปานกลาง ไปจนถึงตู้เย็น 2 ประตู ขนาดใหญ่ จุของได้เยอะและแบ่งแยกเป็นสัดส่วน เหมาะสำหรับบ้านที่มีจำนวนสมาชิกประมาณ 2-4 คน