หากคุณเป็นผู้ติดตั้งหรือที่ปรึกษา เข้าร่วมกับเราเพื่อตรวจสอบแนวโน้มอุตสาหกรรม HVAC ในปี 2023 ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคุณและลูกค้าของคุณ

ภาคธุรกิจก่อสร้างมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจโลก และการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รายงานฉบับใหม่ชี้ว่า ขนาดของตลาดก่อสร้างทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตด้วย CAGR (อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น) ที่ 5.3% ในช่วงปี 2022 ถึง 20271)

คุณอาจสงสัยว่าสิ่งนี้หมายความว่าอย่างไรสำหรับอุตสาหกรรม HVAC รายงานฉบับใหม่ที่คาดการณ์การเติบโต CAGR ที่ 5.1% สำหรับอุตสาหกรรม HVAC ในช่วงปี 2022 ถึง 2027 ระบุว่าการเติบโตนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคธุรกิจก่อสร้าง โดยนับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก2)

กล่าวอย่างง่ายๆ ก็คือ การเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างจะนำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ HVAC และการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความต้องการเพิ่มสูงขึ้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน HVAC

1) ตลาดก่อสร้าง ปี 2022-2027: การวิเคราะห์เชิงพรรณนาสำหรับโมเดลแรงขับเคลื่อน 5 อย่าง พลวัตของตลาด และการแบ่งเซ็กเมนต์ - Technavio (prnewswire.com)

2) รายงานตลาด HVAC ทั่วโลกและการคาดการณ์ ปี 2022-2027 (researchandmarkets.com)

1. ตรวจสอบ SEE(R)

อย่างที่คุณทราบ กฎระเบียบด้านพลังงานใหม่ที่จัดทำโดยกระทรวงพลังงาน (DoE) ของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในปีนี้ DoE ได้เพิ่มการจัดอันดับ SEER (อัตราส่วนประสิทธิภาพด้านพลังงานตามฤดูกาล) ขั้นต่ำสำหรับเครื่องปรับอากาศและปั๊มความร้อน ค่า SEER ขั้นต่ำสำหรับระบบ HVAC จะเพิ่มขึ้นจาก 13.0 เป็น 14.0 ในภาคเหนือ ในขณะที่สำหรับภาคใต้ ค่า SEER จะเพิ่มจาก 14.0 เป็น 15.03) การจัดอันดับ SEER ได้รับการแก้ไขเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดความต้องการใช้พลังงาน มาตรการนี้นอกจากจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจแก่เจ้าของบ้านและเจ้าของธุรกิจ เพราะจะช่วยเพิ่มการประหยัดพลังงาน

3) U.S. Energy Information Administration - EIA - สถิติและการวิเคราะห์อิสระ

2. การเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงการจัดอันดับ SEER ยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูงและค่า GWP (Global Warming Potential) ต่ำ สารทำความเย็น HFCF (Hydrochlorofluorocarbon) และ HFC (Hydrofluorocarbon) ที่มีค่า GWP สูงจำนวนมากได้ถูกยกเลิกการใช้งานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อลดการใช้สารทำความเย็นที่มีศักยภาพในการทำให้โลกร้อนสูง สารทำความเย็น HFC เช่น R134a, R410A และ R407C จะถูกห้ามใช้ในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 20244) ผู้ผลิตที่มองหาทางเลือกพลังงานสะอาดสามารถเปลี่ยนไปใช้ตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เช่น R290 หรือ R-454b5) สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับสารทำความเย็น R290 นี่คือสารทำความเย็นชนิดใหม่ที่มีผลกระทบต่อการทำลายชั้นโอโซนน้อยมาก และปัจจุบันถูกใช้ในคอมเพรสเซอร์ LG R1

4) US EPA ยืนยันข้อจำกัดในอนาคตเกี่ยวกับสารทำความเย็นที่มีค่า GWP สูง (heatpumpingtechnologies.org)

5) การเปลี่ยนแปลงสารทำความเย็นที่จะเกิดขึ้น: การเปลี่ยนผ่าน R-454B (Puron Advance) ส่งผลต่อคุณอย่างไร | Fire & Ice (indoortemp.com)    

1. สมาร์ทโฟน? ถึงเวลาแล้วสำหรับ Smart HVAC

ในโลกที่ก้าวไปสู่ความสะดวกสบายมากขึ้นและยุ่งยากน้อยลง ระบบ HVAC อัจฉริยะกำลังเข้ามาแทนที่ระบบ HVAC แบบเก่า โซลูชั่น HVAC อัจฉริยะ เช่น เทอร์โมสตัทอัจฉริยะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ตของคุณจากระยะไกล และช่วยให้คุณควบคุมและตรวจสอบอุณหภูมิได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดค่าไฟให้กับคุณอีกด้วย ด้วยเทอร์โมสตัทอัจฉริยะ คุณไม่ต้องกังวลว่าจะลืมเปิดหรือปิดระบบทำความร้อนหรือความเย็น

ตอนนี้ระบบเหล่านี้ทำได้มากกว่าการควบคุมระยะไกลอย่างง่ายๆ กล่าวคือ ระบบดังกล่าวมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ตรวจจับตำแหน่งที่ตั้งของคุณ เรียนรู้กิจวัตรประจำวันของคุณ และปรับความร้อนและความเย็นอย่างเหมาะสม ช่วยให้คุณประหยัดทั้งพลังงานและเงินในกระเป๋า เทอร์โมสตัทบางรุ่นสามารถแจ้งข้อมูลการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายให้คุณทราบอยู่เสมอ สรุปแล้วอุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้คุ้มค่ากับการลงทุนและให้ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่สนใจที่จะซื้อเทอร์โมสตัทอัจฉริยะ LG มีอย่างอื่นที่จะนำเสนอให้แก่คุณ นั่นคือ LG ThinQ และ BECON Cloud อุปกรณ์ที่รองรับ LG ThinQ สามารถควบคุมจากระยะไกลได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านทางอุปกรณ์พกพา คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นเหล่านี้ได้ตามลิงก์ด้านล่าง

2. อนาคตอาจเป็นระบบไร้ท่อ

ระบบไร้ท่อกำลังจะกลายเป็นอนาคตของ HVAC เพราะซ่อมแซมและติดตั้งได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ ยูนิต VRF แบบไร้ท่อยังมีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับพื้นที่ที่หลากหลาย เงียบ ประหยัดพลังงาน มีปัญหาขัดข้องน้อยกว่า และสามารถทำความร้อนและทำความเย็นได้พร้อมกัน ระบบ VRF ยังมีประสิทธิภาพมากกว่าในเรื่องของการกรอง แทนที่ และฟอกอากาศภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง แต่คุณภาพอากาศภายในอาคารมีความสำคัญเพียงใดในปี 2023 เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในส่วนถัดไป

3. COVID-19: ให้ความสำคัญกับ ‘V’ ใน HVAC

นับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 การฟอกอากาศได้กลายเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับระบบ HVAC และตอนนี้เรากำลังเผชิญกับ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การฟอกอากาศกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลาดเครื่องฟอกอากาศทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 8.1% ในช่วงปี 2022 to 20306) โดยเป็นผลมาจากวิวัฒนาการของ COVID-19 เมื่อพิจารณาถึงปัญหาท้าทายในปัจจุบันที่เกี่ยวกับโรคระบาดและมลพิษทางอากาศ ระบบที่ให้ความร้อนและความเย็น ควบคู่ไปกับการฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ นอกจากจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแล้ว ยังนับเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับอนาคต ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการใช้งานเครื่องฟอกอากาศเพิ่มขึ้นในปีนี้

6) ขนาดของตลาดเครื่องฟอกอากาศ | รายงานอุตสาหกรรม, ปี 2022-2030 (grandviewresearch.com)

เราได้พูดถึงแนวโน้มที่กำลังจะมาถึงในอุตสาหกรรม HVAC สำหรับปี 2023 อนาคตดูสดใส และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจะช่วยปรับปรุงชีวิตของเราโดยรวม แนวโน้มเป็นไปในแง่บวก และ LG ยังคงมุ่งมั่นที่จะจัดหาระบบ HVAC ที่ดีที่สุดให้แก่คุณ